เทคนิค การไหว้วันตรุษจีน 2567 วันที่เท่าไหร่ ต้องไหว้อย่างไร

เทคนิคการไหว้วันตรุษจีน ต้องทำอย่างไร วันที่เท่าไหร่ ต้องไหว้อย่างไร

วันนี้ผมมี เทคนิค การไหว้วันตรุษจีน 2567 วันที่เท่าไหร่ ต้องไหว้อย่างไร มาฝากทุกๆคนนะครับ เนื่องในโอกาสที่เรากำลังจะเข้าสู่วันไหว้ตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ผมเลยอยากจะเอาเทคนิคดีๆ มาฝากกันเนื่องจากบริษัทเราก็มีเชื้อสายจีนด้วย วัน “ตรุษจีน” หรือ “ปีใหม่จีน” เป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญและใหญ่ที่สุดของชาวจีนทั่วโลก ความเชื่อของคนจีนโดยส่วนมากเลยนะครับ เขาจะไม่ทำงานในวันตรุษจีนกัน เนื่องจากเขาเชื่อว่าการทำงานในวันตรุษจีนนั้น หมายความว่าเขาจะต้องทำงานไปชั่วชีวิต ทำงานหนักไปตลอดเวลา นั้นเอง และความเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า มันจะช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และ วันตรุษจีน 2567 ปีนี้ ทั้งวันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ก็ตรงกับช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์พอดี ทำให้ใครหลายๆ คน อาจกำลังวางเเผน ทำกิจกรรมเสริมมงคลตามประเพณีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปทำบุญ ไหว้เทพเจ้า ไหว้บรรพบุรุษ กินข้าวพร้อมพบปะญาติพี่น้อง และทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ เสริมโชค และสิริมงคลให้กับชีวิต

• บทความที่เกี่ยวข้อง : เทคนิค การไหว้เจ้าที่ ไหว้วันไหนดี ใช้ธูปกี่ดอก (2566)

ความหมายของวันตรุษจีน

ความหมายของ “วันตรุษจีน” เป็นหนึ่งในเทศกาลที่หลาย ๆ คนเฝ้ารอคอย เพราะจะได้รับซองแดงหรืออั่งเปานั่นเอง! และผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน ฮ่าๆ นอกจากนี้ยังเป็นวันสำคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศอีกด้วย เพราะถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ที่มีความสิริมงคล วันตรุษจีนในแต่ละปีจะไม่ตรงกัน ซึ่งวันตรุษจีน 2567 ก็เช่นเดียวกัน วันตรุษจีน ถือว่าเป็นวันสำคัญอีกวันของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน เนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่ของคนจีน ซึ่งคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีนจะให้ความสำคัญมากกับธรรมเนียมในวันตรุษจีนเป็นอย่างมาก ด้วยเป็นวันสำคัญคนไทยเชื้อสายจีนก็จะหยุดงานต่อเนื่องกัน บางบริษัทให้พนักงานหยุดก็เป็นเดือนเลย บ้างให้หยุด 30 วัน บางให้หยุดแค่ 2 อาทิตย์ หรือ 14 วัน เท่านั้นเอง ในวันตรุษจีนมันเหมือนกับการที่เรามารวมญาติครอบครัวพบปะเจอหน้ากันและไหว้บรรพบุรุษ เพราะเชื่อกันว่าเป็นวันมงคล นำโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง มาให้กับผู้ที่เข้าร่วมปฏิบัติตามธรรมเนียม แต่ใครหลายๆคนก็อาจไม่รู้ว่าวันตรุษจีน 2567 ตรงกับวันที่เท่าไหร่ และต้องปฏิบัติเพื่อเสริมสิริมงคงและเฮงทั้งปีอย่างไร มาดูกันเลย

วันตรุษจีน ปี 2567 ตรงกับวันที่เท่าไหร่

• วันจ่าย หรือ วันตื่อเส็ก ตรุษจีน 2567 ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
• วันไหว้ หรือ วันสักการะ ตรุษจีน 2567 ตรงกับวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
• วันเที่ยว หรือ วันเดินทาง ตรุษจีน 2567 ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567

ธรรมเนียมการไหว้วันตรุษจีนจะแบ่งออกเป็น 3 วัน

ช่วงวันตรุษจีนในปี 2567 / 2024 เป็นปีมะโรง (งูใหญ่) ตรงกับวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ โดย วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์จะเป็นวันจ่าย และ วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์คือวันไหว้ และ วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์จะตรงกับวันเที่ยว ซึ่งวันตรุษจีนในแต่ล่ะปีนั้นจะไม่ตรงกัน โดยทั้ง 3 วันที่กล่าวมานั้นจะมีธรรมเนียม การปฏิบัติต่างกัน ไม่เหมือนกัน ในช่วงเทศกาลการไหว้วันตรุษจีน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าพิธีกรรมด้วยความจริงใจและให้ความเคารพ การบูชาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วเป็นประเพณีที่ฝังแน่นในวัฒนธรรมจีนและเชื่อกันว่าจะนำพร การปกป้อง และความปรองดองมาสู่ครอบครัว

1. วันจ่าย หรือ วันตื่อเส็ก (8 กุมภาพันธ์ 2567)

วันจ่าย หรือในภาษาจีนเรียกว่า วันตื่อเส็ก ในปี 2567 วันตื่อเส็กตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เปรียบเสมือนวันสิ้นปี ที่คุณจะต้องออกไปจับจ่ายซื้อของสำหรับไหว้ คนจีน ไทยเชื้อต้องไปจับจ่ายซื้อของ ไม่ว่าจะเป็น อาหารสด ขนม และผลไม้ ที่จะเตรียมมาบูชาเป็นธรรมเนียมของการปฏิบัติในวันจ่าย เนื่องจากในวันไหว้หรือวันถัดไปนั้น บรรดาร้านรวงต่างปิดทำการและหยุดยาวติดต่อกันหลาย ทำให้คุณไม่สามารถหาซื้อของสำหรับนำมาไหว้ในวันตรุษจีน 2567 ได้ บางบริษัทจีนในประเทศไทยยังถือโอกาสนี้มอบอั่งเปาหรือที่เรียกว่า “แต๊ะเอียหรืออั่งเปา” ให้กับพนักงานเพื่อเป็นการแสดงถึงความเป็นมงคล ความมีชีวิตชีวา และความโชคดี

2. วันไหว้ หรือ วันสักการะ (9 กุมภาพันธ์ 2567)

วันไหว้ หรือ หรือ วันสักการะ ตรงกับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นวันแสดงความเคารพและความกตัญญูต่อเทพเจ้า บรรพบุรุษ พ่อแม่ หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว และเทพเจ้าชาวไทยเชื้อสายจีนจะนำอาหารไปพร้อมกับขนมและผลไม้อื่นๆ ไปยังแท่นบูชา โดยจะมีการจัดพิธีไหว้แยกกัน ในช่วงเช้ามืดจะเป็นการไหว้เทพเจ้า โดยมีรูปภาพหรือสัญลักษณ์แสดงถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วของตนเพื่อไหว้ การบูชาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วเป็นประเพณีที่สำคัญ เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของความเคารพ ความกตัญญู และความต่อเนื่องของสายสัมพันธ์ในครอบครัว ต่อมาในช่วงสายก่อนเที่ยงจะไหว้บรรพบุรุษ ส่วนช่วงบ่ายจะไหว้ทำทานแก่สัมภเวสี ซึ่งจะมีทั้งการรับประทานอาหารที่เซ่นไหว้แล้วร่วมกัน เพื่อให้เป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี และยังมีการจุดประทัดเพื่อขับไล่สิ่งไม่ดีออกไปอีกด้วย

3. วันเที่ยว หรือ วันเดินทาง (10  กุมภาพันธ์ 2567)

วันเที่ยว หรือ วันเดินทาง ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ในวันนี้มีธรรมเนียมปฏิบัติคือการคิดดี พูดดี ทำดี หรือทำอะไรที่เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง และงดการทำสิ่งไม่เป็นมงคล เช่น ไม่ทวงหนี้, ไม่กวาดบ้าน, ไม่ตัดผม, ไม่นอนตื่นสาย ฯลฯ คล้าย ๆ กับธรรมเนียมวันปีใหม่ของไทย รวมทั้งการนำส้มสีทองไปมอบใหญ่ผู้หลักผู้ใหญ่ด้วย ซึ่งเป็นวันที่สามของการเฉลิมฉลอง เป็นวันที่ผู้คนจะออกจากบ้านเพื่อเดินทางหรือเพื่อให้พรแก่ญาติและบุคคลที่มีเกียรติ โดยจะนิยมสวมเสื้อผ้าสีแดงหรือชุดกี่เพ้า เนื่องจากเชื่อกันว่าสีแดงจะนำโชคดีและปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย

สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในวันตรุษจีน 2567

สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน

• เราควรกินเจมื้อเช้าเป็นมื้อแรกของปี
• ไหว้เทพเจ้า บรรพบุรุษ ไหว้ขอพรจากผู้ใหญ่ พร้อมทั้งให้และรับอั่งเปา
• ทำพิธีรับรับเทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิงเอี้ย”
• การการรับประทานอาหารจากพิธีไหว้บรรพบุรุษร่วมกันของญาติพี่น้อง
• การรับประทานเกี๊ยวร่วมกันของญาติพี่น้องในวันตรุษจีน
• ใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส สวมเสื้อผ้าใหม่ที่มีสีสันสดใส (แนะนำสีแดง)
• ติด “ตุ๊ยเลี้ยง” หรือคำอวยพรปีใหม่ เขียนคำอวยพรปีใหม่ (ตุ๊ยเลี้ยง) ด้วยตัวอักษร 7 ตัว
• การจัดประทัดขับไล่สิ่งชั่วร้ายหรือสิ่งไม่ดีออกไป หลังจากที่ไหว้ทุกอย่างเสร็จแล้ว

สิ่งที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีน

• ห้ามทวงหนี้หรือให้ยืมเงิน การให้ผู้อื่นยืมเงิน เพราะเชื่อว่าจะมีคนมายืมเงินตลอดทั้งปี และ การยืมเงินของผู้อื่น เพราะเชื่อว่าจะลำบากและยืมเงินผู้อื่นตลอดทั้งปี
• ห้ามร้องไห้ ห้ามต่อสู้หรือทะเลาะ การร้องไห้ เพราะมีความเชื่อว่าจะเสียใจและร้องไห้ตลอดทั้งปี
• ห้ามกวาดบ้าน ซักผ้า การกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า หรือทำความสะอาดบ้าน เพราะเชื่อว่าเป็นการลบหลู่เทพเจ้า
• ห้ามสระหรือตัดผม การสระผมหรือตัดผม เนื่องจากคำว่า “ผม” ไปพ้องกับคำว่า “มั่งคั่ง” ดังนั้น การสระผมหรือตัดผม จึงเหมือนการกำจัดความมั่งคั่งออกไป
• ห้ามพูดสิ่งไม่ดี การพูดถึงสิ่งไม่ดี พูดคำหยาบ พูดถึงความตาย พูดถึงผี หรือทะเลาะเบาะแว้ง
• ห้ามใช้ของมีคม การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ มีความเชื่อว่าเหมือนการตัดสิ่งไม่ดีออกไป
• ห้ามทำของแตก การทำของแตกถือเป็นลางร้ายของความแตกแยกในครอบครัว
• ห้ามใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ การสวมชุดสีขาว ดำในวันตรุษจีน เชื่อว่าเป็นสีแห่งความโชคร้าย
• การรับประทานเนื้อสัตว์และโจ๊กในมื้อเช้า เพราะเชื่อว่าเป็นการขัดลาภ

เทคนิค การไหว้วันตรุษจีน 2567 ต้องไหว้อะไร

การไหว้วันตรุษจีน 2567 เทคนิคในการไหว้นั้นคือเราต้อง ไหว้เทพเจ้า บรรพบุรุษ และรวมไปถึงสัมภเวสี ด้วย เราจะมีการจัดพิธี จัดป้ายและจัดของไหว้ไม่เหมือนกัน เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าการไหว้เทพเจ้า การไหว้บรรพบุรุษ และไหว้สัมภเวสี หรือ ผีไม่มีญาติ เราต้องไหว้อย่างไร

การไหว้เทพเจ้า

การไหว้เทพเจ้า หรือเราเรียกในภาษาจีนว่า “ป้ายเล่าเอี๊ย” ปกติเราจะไหว้กันในช่วงเช้าหรือเช้ามืด (แนะนำ 06.00-07.00 น.) เป็นการแสดงการขอบคุณเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คุ้มครองบ้านเรือนให้ร่มเย็นเป็นสุข

• ธูป 3 ดอก พร้อมกระถางธูปและแจกันดอกไม้
• เทียนแดงก้านไม้ 1 คู่ พร้อมเชิงเทียน
• เนื้อสัตว์ 3 อย่าง หรือ 5 อย่าง
• น้ำชา เหล้า ผลไม้มงคล ขนมมงคล
• กระดาษเงินกระดาษทอง

การไหว้บรรพบุรุษ

การไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว หรือในภาษาจีนเราเรียกว่า “ป้ายแป๋บ้อ” เพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณ ให้ไหว้ในช่วงสายก่อนเที่ยง (แนะนำ 10.00-11.00 น.)

• ธูป 3 ดอก พร้อมกระถางธูปและแจกันดอกไม้
• เทียนแดงก้านไม้ 1 คู่ พร้อมเชิงเทียน
• อาหารคาว 5 อย่าง พร้อมข้าวสวยตามจำนวนบรรพบุรุษ
• ผลไม้มงคล ขนมมงคล น้ำชา เหล้า
• กระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ แบงค์กงเต็ก หรือสิ่งของในรูปแบบของกระดาษ

การไหว้ผีหรือสัมภเวสี

การไหว้สัมภเวสีหรือการไหว้ผี ในภาษาจีนเราเรียกว่า “ป้ายฮ่อเฮียตี๋” เป็นการให้ทานและขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปด้วยการจุดประทัด ควรไหว้ในช่วงบ่าย ๆ ประมาณ 14.00 น. และไม่เกิน 16.00 น. ซึ่งสามารถจัดของไหว้ได้ตามความสะดวกได้เลย

• อาหารคาวหวาน ตามสะดวก
• น้ำชาและเหล้า (ถ้ามี) จะต้องเป็นแบบขวด
• กระดาษเงินกระดาษทอง
• เสือสำหรับปูรองของไหว้บริเวณพื้นนอกตัวบ้าน
• เกลือ ข้าวสาร และประทัด สำหรับใช้ขับไล่สิ่งไม่ดีบริเวณบ้านหลังไว้เสร็จ

สีมงคลในวันตรุษจีน

• สีแดง : สีมงคล อันดับ 1 สัญลักษณ์แห่งความโชคดี ความรุ่งโรจน์ สว่างไสว ความสุข และเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ เป็นสีที่ชาวจีนนิยมใช้งานมงคลแทบทุกอย่าง
• สีเหลือง : สีมงคล สัญลักษณ์แห่งจักรพรรดิ เป็นสีมงคลประจำธาตุดิน และเป็นสีที่ใช้แทนความสดใสร่าเริง และความหวังอีกด้วย ใครเบื่อสีแดง ลองเปลี่ยนมาเป็นสีเหลืองสดใสดูได้นะ
• สีทอง : อีกหนึ่งสีมงคลสำคัญในตำราจีน สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย เหมือนสีของทองคำ จึงไม่น่าแปลกที่การใส่สีนี้ จะเป็นการเสริมมงคล สื่อถึงความหรูหราและสูงส่ง
• สีเขียว : สีมงคล สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์ เป็นอีกหนึ่งสีมงคลเสริมโชคด้านการเงิน ที่มาแรงมากในปี 2565 และต่อเนื่องมาจนถึงปี 2566
• สีฟ้า สีน้ำเงิน : สีฟ้า สีน้ำเงิน สีเขียวอมน้ำเงินหรือสีฟ้าน้ำทะเล เป็นสีมงคล สัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว การเติบโต และสีแทนฤดูใบ้ไม้ผลิที่สื่อถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ความสดชื่น และความหมายในเชิงบวก
• สีม่วง : สีมงคล ตามความเชื่อของตำราจีน สื่อถึงพลังอำนาจ ความลึกลับ และมีเสน่ห์น่าค้นหา มีความทรงพลัง แต่ไม่ร้อนแรงเหมือนสีแดง
• สีส้ม : สีมงคล สัญลักษณ์แห่งพลังชีวิตที่เปี่ยมล้น เป็นเหมือนสีที่รวมความรุ่งโรจน์ ความโชคดี ของสีแดง และความหวังของสีเหลือง ไว้ในสีเดียว
• สีชมพู : สีมงคล สัญลักษณ์แห่งความสดใส เยาว์วัย ความรักแรกรุ่น และแน่นอนว่า สีชมพูเป็นสีมงคล ที่สามารถสื่อถึงความอ่อนหวาน น่ารัก สดใส เสริมให้คนใส่ได้รับความรักและเมตตาจากผู้คนด้วย

อาหาร ผลไม้ ในการไหว้วันตรุษจีน มีความหมายอย่างไร

ผลไม้

• กล้วย – กวักโชคลาภเข้ามาและขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
• แอปเปิ้ล – ความสันติสุข สันติภาพ
• สาลี่ – เงินทองไหลมา โชคลาภมาถึง (ควรระวังไม่นิยมไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ)
• ส้มสีทอง – ความสวัสดีมหามงคล
• องุ่น – จีนแต้จิ๋วเรียกว่า พู่-ท้อ ความเพิ่มพูน
• สับปะรด – มีโชคมาหา คนจีนแต้จิ๋วเรียก อั้งไล้ แปลว่า เรียกสีแดงมา สีแดงเป็นสีของโชค ก็ประมาณว่าเรียกโชคเข้ามา คนจีนทางใต้นิยมไหว้สับปะรดมาก

ขนม

• ขนมสาลี่ – รุ่งเรืองเฟื่องฟู
• ซาลาเปา/หมั่นโถว – โชคดี เปา แปลว่า ห่อ ไหว้ซาลาเปาเพื่อให้เปาไช้ แปลว่า  ห่อโชค  ห่อเงินห่อทองมาให้ลูกหลาน
• ขนมจับกิ้ม หรือ แต้เหลียง – ก็เรียกคือ ขนมแห้ง 5 อย่าง จะเรียกว่า โหงวเส็กทึ้ง หรือ ขนม 5 สี ก็ได้ ประกอบด้วย ถั่วตัด งาตัด ถั่วเคลือบ ฟักเชื่อม และข้าวพอง
• ขนมเทียน – ความเจริญรุ่งเรือง
• ขนมเข่ง – ความหวานชื่น
• ขนมไข่ – ความเจริญเติบโต คนจีนเรียกว่า หนึ่งก้วย ไข่คือบ่อเกิดแห่งการได้เกิดและเติบโต ไหว้ขนมไข่เพื่อให้ได้มีการเกิดและการเจริญเติบโต
• ขนมถ้วยฟู – ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง คนจีนแต้จิ๋วเรียกขนมถ้วยฟูว่า ฮวกก้วย ก้วย  แปลว่า ขนม ฮวก แปลว่างอกงาม

อาหาร

• ไก่ – ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ความมั่งคั่ง ความสง่างาม ยศ และความขยันขันแข็ง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้องเป็นไก่เต็มตัว หมายถึง มีหัว ตัว ขา ปีก มีความหมายถึง ความสมบูรณ์
• เป็ด – สิ่งบริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย
• ตับ – คำจีนเรียกว่า กัว พ้องเสียงกับคำว่า กัว ที่แปลว่าขุนนาง
• ปลา – เหลือกินเหลือใช้ คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า ฮื้อ โดยมีวลีมงคล อู่-ฮื้อ-อู่-ชื้ง แปลว่า ให้เหลือกินเหลือใช้  ไหว้ปลาเพื่อให้มีเงินเหลือกินเหลือใช้มาก ๆ
• หมู – ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง ด้วยความอ้วนของตัวหมู สะท้อนถึงความกินดีอยู่ดี
• ปลาหมึก – เหลือกินเหลือใช้
• หมี่ซั่ว หรือ ฉางโซ่วเมี่ยน – ตามชื่อหมายถึง อายุยืนยาว
• สาหร่ายทะเลสีดำ – มั่งคั่ง ร่ำรวย เรียกว่า ฮวกฉ่าย ถ้าออกเสียงเป็นฮวดไช้ ก็แปลว่า โชคดี ร่ำรวย
• หน่อไม้ – การอวยพรให้ร่ำรวยผาสุก

ฤกษ์วันไหว้ตรุษจีน เวลาไหนดี

1. ไหว้เจ้าช่วงเช้ามืด

การไหว้เจ้าช่วงเช้ามืด คือ การไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยเครื่องไหว้ที่เป็นเนื้อสัตว์ 3 อย่าง คือ หมูสามชั้นต้ม ไก่ต้ม เป็ดต้ม พร้อมทั้งเหล้า น้ำชา และกระดาษเงิน-กระดาษทอง การไหว้ตรุษจีนประมาณช่วง 7-8 โมงเช้า จะเป็นการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพที่คุ้มครองบ้าน ขอบคุณท่านที่ช่วยดูแลบ้าน ดูแลผู้อยู่อาศัยให้อยู่ร่มเย็น อยู่อย่างมีความสุข โดยจะใช้ของไหว้คือ ชุดซาแซ หมู เป็ด ไก่ ขนมมงคล เช่นขนมเทียน ขนมถ้วยฟู ผลไม้มงคล เช่น ส้มสีทอง แอปเปิ้ลแดง องุ่น เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง โดยการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะใช้ธูป 3 ดอก

2. ไหว้เจ้าช่วงสาย

การไหว้เจ้าช่วงสาย โดยจะไหว้ในช่วงเวลา 10.00 น. เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญู และเพื่อระลึกถึงพ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว ด้วยซาแซ อาหารคาว-หวาน รวมถึงเผากระดาษเงิน-กระดาษทอง พร้อมเสื้อผ้าให้กับบรรพบุรุษ ในเวลาไม่เกินเที่ยงวัน และหลังจากที่ทุกคนในครอบครัวร่วมกินอาหารไหว้บรรพบุรุษเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะมีการแลกเปลี่ยนอั่งเปากันอีกด้วย

3. ไหว้เจ้าช่วงบ่าย

การไหว้เจ้าช่วงบ่าย คือ ารไหว้ให้ทานสัมภาเวสี การไหว้ผีไม่มีญาติ จะไหว้ในช่วงบ่าย ไม่เกิน 16.00 น. เราจะไหว้ด้วยข้าว กับข้าว ขนม เช่น ขนมเข่งกับขนมเทียน และกระดาษเงิน-กระดาษทอง รวมถึงมีการจุดประทัดเพื่อปัดเป่าไล่สิ่งชั่วร้ายด้วย จุดประทัดเพื่อเพิ่มความสิริมงคล

4. ไหว้เจ้าช่วงดึก

การไหว้เจ้าช่วงดึก ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ช่วงกลางคืนสำหรับผู้ที่อยากเสริมดวง ความโชคดี ความร่ำรวย และโชคลาภ ก็สามารถไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยในช่วงเวลา 23.00 น. – 01.00 น. ได้ ซึ่งของไหว้จะเป็น รูปปั้นเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย หรือรูปภาพเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย, ธูป 3 ดอก, กระธางธูป, แจกัน-ดอกไม้สด 1 คู่, เชิงเทียน พร้อมเทียนสีแดง 1 คู่, เจฉ่าย 5 อย่าง (เห็ดหอม, เห็ดหูหนู, ดอกไม้จีน, วุ้นเส้น และฟองเต้าหู้ อย่างละ 1 ถ้วย) ข้าวสวย, น้ำชา, ขนมอี้ อย่างละ 5 ถ้วย, ผลไม้มงคล 5 อย่าง เช่น ส้มสีทอง, แอปเปิ้ลแดง, สาลี่, องุ่น, กล้วยหอม และกระดาษเงิน กระดาษทอง

คำอวยพรภาษาจีนที่ใช้สำหรับพูดในวันตรุษจีน

คำถามที่พบบ่อย FAQ

✅ สินค้าราคาโรงงาน ขาย ปลีก-ส่ง
✅ รับประกันคุณภาพสินค้าทุกชิ้น
✅ มีระบบผ่อนจ่าย ตามความสะดวกของลูกค้า
✅ สามารถผลิตในแบรนด์ของลูกค้าเองได้
✅ มีบริการจัดส่ง – ติดตั้ง ทั่วประเทศ
✅ สอบถาม-ปรึกษา(ฟรี)

สนใจดูตัวอย่างสินค้า/เป็นตัวแทนขาย

Inbox: m.me/CCTGROUPCompany
Email : [email protected]
Line: Lakkana99
โทร : 0816428556 (คุณลักขณา)
Website : https://www.cctgroup.co.th
Facebook : บัวเชิงผนัง พื้นไม้ลามิเนต กระเบื้องยาง By CCT Group